
คอลัมน์ การศึกษา: รับ ‘เด็กรีไทร์’ กลับมาเรียน สะท้อนวิกฤตมหาวิทยาลัย??
25 พฤษภาคม 2018
“RMUTT GLOBAL BUSINESS AND ECONOMICS CONFERENCE 2018 (RTBEC 2018)”
28 พฤษภาคม 2018ตามที่รัฐบาลมีแนวคิดตั้งกระทรวงใหม่ ชื่อ “กระทรวงวิทยาศาสตร์ นวัตกรรมและการอุดมศึกษา” โดยจะควบรวมกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) สำนักงานคณะกรรมการอุดมศึกษา (สกอ.) กระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ(วช.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย(สกว.) เข้ามาไว้ด้วยกัน เมื่อวันที่ 27 พ.ค. นายสุพันธ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยกล่าวว่า เห็นด้วยเพราะภาคอุตสาหกรรมต้องการงานวิจัยที่ตอบสนองธุรกิจ ที่ผ่านมานักวิชาการหรือนักวิจัยในมหาวิทยาลัย แม้มีคนเก่งๆมาก แต่ทำวิจัยตามความถนัดของตนเอง ไม่ตอบโจทย์ ทุกวันนี้โลกมีการเปลี่ยนแปลงไปมาก ประเทศไทยต้องขับเคลื่อนประเทศด้วยวิจัยและนวัตกรรมอย่างเป็นระบบมหาวิทยาลัยจะต้องรู้ว่าภาคอุตสาหกรรมภาคเอกชนต้องการอะไร ต้องมีการปรับเปลี่ยนหลักสูตรให้สอดคล้อง มิฉะนั้นนักศึกษาจบออกมาก็จะตกงานเพราะต่อไปนี้ภาคอุตสาหกรรมจะใช้นวัตกรรมเครื่องจักร หุ่นยนต์ การมีกระทรวงใหม่ทำให้ประเทศมีจุดมุ่งเน้นในการวิจัยเฉพาะทางที่ชัดเจน สามารถถ่ายทอดเทคโนโลยีมายังภาคอุตสาหกรรม
ด้านนายกลินท์ สารสิน ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เห็นด้วยมากที่สุด และต้องการให้เกิดขึ้นเร็วๆ เพื่อเตรียมคนสำหรับอนาคตทุกวันนี้ประเทศไทยไม่มีคนที่เชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ หรือนิว เอสเคิร์ฟ (New S-Curve) ทั้งเรื่องหุ่นยนต์ อากาศยาน ปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ อุตสาหกรรมการแพทย์ ดิจิทัลเงินลงทุน ฯลฯ ดังนั้นอุดมศึกษาต้องเปลี่ยนหลักสูตรใหม่มิฉะนั้นจะตามความเปลี่ยนแปลงของโลกไม่ทันเพราะทุกวันนี้งานวิจัยบางอย่างทำออกมาใช้ไม่ได้ต้องเอาวิจัยลงจากหิ้งเลิกทำวิจัยตามความพอใจแล้วมาทำงานวิจัยขึ้นห้าง สามารถนำไปต่อยอดได้ใช้ประโยชน์ได้ ขอให้กระทรวงใหม่เกิดขึ้นไวๆและขอให้เกิดขึ้นจริง
ส่วนนายประเสริฐ ปิ่นปฐมรัฐ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ธัญบุรีกล่าวว่า เห็นด้วยถือเป็นการปฏิรูปประเทศครั้งใหญ่โดยกระทรวงใหม่ควรมีนโยบายส่งเสริมให้อาจารย์มหาวิทยาลัยมีโอกาสทำงานวิจัยที่สามารถต่อยอดได้ ส่วนงานอุดมศึกษาจะต้องสนองนโยบายรัฐบาลเน้นเรื่องเทคโนโลยี นวัตกรรม ไม่ใช่มุ่งทำวิจัยอย่างเดียว แต่ต้องพัฒนาคนให้ตรงกับความต้องการของอุตสาหกรรม
นายวีรชัย พุทธวงศ์ เลขาธิการศูนย์ประสานงานบุคลากรในสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ กล่าวว่า เห็นด้วยกับการตั้งกระทรวงใหม่ เพราะจะเป็นการปฏิรูประบบราชการที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติมหาศาลจะนำไปสู่การพัฒนาประเทศแบบก้าวกระโดด และส่งเสริมการแข่งขันด้านคุณภาพและผลงานทั้งการศึกษาและวิจัยในเวทีสากลได้อย่างมีประสิทธิภาพมีการแบ่งปันทรัพยากร เพื่อเกื้อหนุนให้เกิดการแข่งขันในระดับโลกได้อย่างเต็มที่
ขณะที่นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.วิทยาศาสตร์ฯ กล่าวว่า กำลังร่างการจัดโครงสร้างกระทรวงวิทยาศาสตร์นวัตกรรม และการอุดมศึกษา เพื่อเสนอนายกรัฐมนตรีออกเป็น พ.ร.บ.ปรับปรุงกระทรวง ทบวงกรม ออกมาก่อน จากนั้นจึงปรับปรุงกฎหมายการอุดมศึกษาและกฎหมายวิจัยออกตามมาคาดว่าจะใช้เวลาไม่นานก่อนเสนอคณะรัฐมนตรี สภานิติบัญญัติแห่งชาติก่อนประกาศใช้ ระหว่างนี้จะชวนนายกอบศักดิ์ภูตระกูล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นพ.อุดมคชินทร รมช.ศึกษาธิการ เดินสายรับฟังความคิดเห็นจากหน่วยงานต่างๆ โดยในวันที่ 31 พ.ค.นี้ จะร่วมประชุมกับที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) ทั้ง 27 แห่ง สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ส่วนวันที่ 1 มิ.ย.จะประชุมหารือกับที่ประชุมอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏ (ทปอ.มรภ.) ทั้ง 38 แห่ง